วันอังคารที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2554

อาวุธในวิชาปากั้ว

เมื่อพูดถึงอาวุธในวิชาปากั้วแล้ว ถือว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว ทั้งนี้ก็เพราะว่า
ไม่ว่าจะเป็นอาวุธสั้นหรือยาว เดี่ยวหรือคู่ ล้วนแล้วแต่เป็นอาวุธโบราณ อาวุธประหลาดที่หาดูได้ยาก
ทั้งสิ้น (อาวุธในวิชาปากั้วทั้งสั้นหรือยาว เดี่ยวหรือคู่ มีอยู่นับสิบชนิด)



ดาบปากั้ว (ดาบแปดทิศ) หรือปากั้วเตา เอกลักษณ์ก็คือขนาดและน้ำหนักของใบดาบที่ใหญ่โต
และมีน้ำหนักมากกว่าดาบทั่วไปมากจนบางครั้งก็เรียกว่าต้าเตา (ดาบใหญ่)
ในคลิปนี้คือ จ่วนเตาลิ่วสือซื่อ (ดาบหมุน64ท่า) โดยเหล่าซือหลี่เว้ยตง

วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2554

พื้นฐานของปากั้วจ่าง

อาจารย์ปู่ จั้นเสียนฝั่น (รุ่นที่ 4) สอนการเดินเสี่ยวปาจ่าง(แปดฝ่ามือเล็ก) ถ่ายที่จี๋หลิน ฉางชุน ประเทศจีน





วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ทั่นปู้

การฝึกเดินทั่นปู้เป็นพื้นฐานที่สำคัญอย่างหนึ่งในการฝึกปากว้าจ่าง ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ฝึกปากว้าจ่างในวันแรกหรือผู้ที่ฝึกปากว้าจ่างมานานนับสิบปีก็จะเว้นซึ่งการฝึกทั่นปู้นี้ไปเสียไม่ได้ การฝึกเดินทั่นปู้นี่นิยมฝึกกันตอนเช้า(เช้ามืด) ใช้เวลาการฝึกประมาณ 15นาที-1ชม.ตามแต่โอกาสสะดวก การฝึกเดินจะเป็นการเดินอย่างช้าๆและสงบ ยิ่งเดินช้าเท่าไหร่ก็ยิ่งดี ดังนั้นการฝึกเดินทั่นปู้จะเรียกว่าการฝึกเดินจงกลมเพื่อให้สะดวกต่อความเข้าใจของคนไทยเราก็ได้เพราะเป็นการเดินช้าๆ เพื่อฝึกสมาธิเหมือนกัน เพียงแต่การฝึกทั่นปู้มีการรูปลักษณะท่าร่างขณะเดินเอาไว้อย่างแน่นอนเพื่อประโยชน์ในด้านการฝึกความแข็งแรงของร่างกาย (ซึ่งจำเป็นต่อการฝึกปากั้วเพื่อเป็นศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว) และการฝึกสติรู้ตัวตนว่าขณะนี้ร่างกายเราเป็นอย่างไร ถูกต้องตามหลักที่กำหนดหรือไม่

ประโยชน์ของการฝึกเดินทั่นปู้
การฝึกเดินทั่นปู้ในตอนเช้าจะให้ประโยชน์ต่อผู้ฝึกหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นการฝึกกำลังขา ฝึกการทรงตัว ฝึกสมาธิ ฝึกปราณ ฝึกจิตใจปล่อยวาง ฝึกการถ่ายเทน้ำหนักระหว่าเท้าทั้ง2ขณะก้าวเดิน รวมถึงฝึกการยืดเส้นสายในตัวอีกด้วย

ดังนั้นการฝึกทั่นปู้นอกจากจะเป็นฐานการฝึกศิลปะการต่อสู้แบบปากว้าจ่างที่ดีเยี่ยม(เปรียบเช่นการยื่นจั่นจวง ซานถี หรือหม่าปู้ในศิลปะมวยอื่นๆ)แล้ว แม้แต่ผู้ที่ไม่ได้สนใจในเรื่องของศิลปะการต่อสู้ก็ยังถือว่าเป็นการออกกำลังกาย และการฝึกทำสมาธิที่ดีมากอีกวิธีหนึ่ง เพราะช่วยทำให้ผ่อนคลาย จิตใจสงบผ่องใส อีกทั้งยังเป็นการออกกำลังกายให้ร่างกายแข็งแรงโดยที่ไม่หักโหม เสี่ยงต่อการบาดเจ็บในระหว่างการฝึกน้อยกว่ากายบริหารอื่นๆ อีกหลายชนิดอีกด้วย

ปากั้วเน่ยกง

โบราณว่า “อยากฉลาดเรียนไท่จี๋ อยากต่อยตีเรียนสิงอี้ อยากเป็นเซียนให้เรียนปากั้ว” ความจริงทั้งไท่จี๋ สิงอี้ ปากัว ต่างก็เป็นชื่อของวิชาศิลปะการต่อสู้ของจีนทั้งสิ้น ขึ้นชื่อว่าศิลปะการต่อสู้แล้วก็ต้องต่อสู้ทำร้ายกันทั้งสิ้น ที่ว่าอยากฉลาดเรียนไท่จี๋ อยากต่อยตีเรียนสิงอี้นั้นพอเข้าใจได้ไม่ยาก แต่ที่ว่าอยากเป็นเซียนให้เรียนปากั้วนั้นฟังดูพิกลๆ ในเมื่ออยากเป็นเซียนอยากบรรลุมรรคผลทางศาสนาแล้วเหตุใดจึงกล่าวว่าให้เรียนปากั้ว ทั้งๆ ที่ปากั้วนั้นก็คือศิลปะการป้องกันแขนงหนึ่งเท่านั้นเอง

เหตุผลที่คนโบราณเขาว่าอยากเป็นเซียนให้เรียนปากั้ว ความจริงก็เพราะว่าในวิชาปากั้วนั้นมีจุดเด่นกว่าวิชามวยอื่นๆ ตรงที่ว่านอกจากเรื่องการฝึกศิลปะการต่อสู้แล้วก็ยังมีเรื่องการฝึกภายในหรือการฝึกพลังภายในอยู่เป็นอันมากนั่นเอง ไม่ว่าจะเป็นการฝึกพลังภายในโดยตรงหรือการฝึกพลังภายในโดยผสมผสานไปกับการฝึกศิลปะการต่อสู้ก็ตาม