วันอาทิตย์ที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

การฝึกลมปราณ (ชี่กง)

คำว่าปราณหมายถึงชีวิต การดำรงค์อยู่ของชีวิต ส่วนคำว่าลมปราณนั้นหมายถึงลมแห่งชีวิตซึ่งก็คือลมหายใจของสิ่งมีชีวิตนั่นเอง ตามแนวทฤษฏีแบบจีนโบราณแบ่งองค์ประกอบของมนุษย์ (และสิ่งมีชีวิตต่างๆ) ออกเป็นสามส่วนด้ววยกัน โดยจะประกอบไปด้วย ร่างกาย(สิง) ลมปราณ(ชี่) จิตวิญญาณ(เสิน)

ร่างกายก็คือเนื้อหนังกระดูกเส้นเอ็นตลอดจนอวัยวะต่างๆที่ประกอบกันขึ้นมาเป็นร่างกาย ส่วนจิตวิญาณก็คือความรู้สึกนึกคิด ทัศนคติ อารมณ์ ความรู้สึกต่างๆ ที่ทำให้มนุษย์มีบุคลิกภาพความเป็นตัวเอง

สำหรับปราณนั้นเป็นส่วนที่เชื่อมตรงกลางระหว่างร่างกายและจิตใจเข้าด้วยกัน หากขาดซึ่งลมปราณแล้วจิตและกายย่อมไม่สามารถดำรงค์อยู่ได้

ตั้งแต่โบราณมามีการฝึกลมปราณในร่างกายมากมายหลายรูปแบบวิธี แต่และวิธีการต่างก็มีจุดประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป แต่เราพอจะสามารถกำหนดรูปแบบของการฝึกลมปราณออกเป็นสองรูปแบบที่สำคัญด้วยกัน นั่นก็คือการฝึกลมปราณแบบภายนอกและแบบภายใน
 ก่อนที่เราจะไปรู้จักว่าลมปราณภายนอกและภายในเป็นอย่างไร เราจะต้องไปทำความเข้าใจก่อนว่าลมปราณหรือลมหายใจของเรานี้ผลโดยตรงต่อสภาวะจิตใจ และก็มีผลโดยตรงต่อร่างกาย การที่เราหายใจเร็วๆ แรงๆ หรือการที่เราหายใจช้าๆ ลึกๆ นั้นล้วนส่งผลโดยตรงต่อร่างกายและจิตใจทั้งสิ้น

ร่างกายของคนเราเมื่อแบ่งออกเป็นสองขั้วตามคติทวิลักษณ์ (อิน-หยาง) เราจะสามารถแยกออกได้เป็นร่างกายภายนอก และสิ่งที่อยู่ข้างในซึ่งก็คือจิตใจ ส่วนลมปราณนั้นเป็นตัวเชื่อมทั้งสองขั้วเข้าด้วยกันดังที่กล่าวมาแล้ว
สำหรับการฝึกลมปราณแบบภายนอกก็คือการฝึกลมปราณหรือลมหายใจเพื่อช่วยกระตุ้นการทำงานของร่างกายให้แข็งแรงมีพลัง หรือการฝึกลมหายใจเพื่อให้มีพลังงานไหวเวียนเพียงพอที่จะหล่อเลี้ยงอวัยวะส่วนต่างๆ ของร่างกายเมื่อต้องใช้งานหนักมากกว่าปรกติ การฝึกลมปราณแบบนี้มักจะใช้การหายใจลึกยาวๆ เป็นจังหวะที่หนักแน่นเพื่อกระตุ้นการสูบฉีดของเลือด การทำงานของกล้ามเนื้อ หรือช่วยส่งพลังงาน (ส่งออกซิเจน) ไปหล่อเลี้ยงกล้ามเนื้อและอวัยวะส่วนต่างๆ ให้เพียงพอต่อการใช้งาน

ดังนั้นการฝึกลมปราณแบบภายนอกนี้จึงนิยมในทางศิลปะการต่อสู้

และสำหรับการฝึกลมปราณแบบภายในนั้นก็คือการฝึกลมปราณหรือลมหายใจเพื่อพัฒนาส่วนที่เป็นจิต ซึ่งก็คือการฝึกสมาธินั่งเอง โดยใช้ลมหายใจที่ลึก ยาว แต่ผ่อนคลายช่วยลดการทำงานของสมอง (เพื่อให้เข้าถึงภาวะคลื่อนสมองที่อัลฟ่าหรือลึกกว่านั้น) ทำให้เกิดสมาธิและยังเป็นการช่วยให้กล้ามเนื้อส่วนต่างๆ ได้รับการพักผ่อน ผ่อนคลายอีกด้วย ซึ่งจากการวิจัยพบว่า สภาวะผ่อนคลายอย่างมีสมาธิที่ว่านี้มีผลโดยตรงกับการผลิตเม็ดเลือดขาวรวมทั้งสารคัดหลั่งที่มีประโยชน์ต่างๆ ต่อร่างกายอีกด้วย

ดังนั้นการฝึกลมปราณแบบภายในนี้จึงนิยมในทางสุขภาพและปัญญาในทางศาสนา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น